ห่วงแฟนบอลสุขภาพแย่ช่วงบอลโลก

กรมอนามัย หวั่นแฟนบอลชาวไทยสุขภาพแย่ช่วงฟุตบอลโลก 2018 แนะวิธีดูแลตนเองด้วยการควบคุมอาหาร ขนมกรุบกรอบ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มรสหวาน พร้อมพักผ่อนให้เพียงพอ ควบคู่กับการออกกำลังกาย

นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการเตรียมสุขภาพในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ว่าการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ปีนี้ จะมีการถ่ายทอดสดให้ชมในเวลาช่วงเย็นหรือดึก ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการนอนหลับพักผ่อนและในการแข่งขันแต่ละครั้งจะมีการถ่ายทอดสดติดต่อกันนานหลายวัน จึงมีความเป็นห่วงสุขภาพประชาชนที่ต้องการดูการแข่งขัน เพราะหากไม่มีการเตรียมตัวที่ดีอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะเรื่องการกินอาหารและออกกำลังกาย หากไม่มีการควบคุมในเรื่องดังกล่าวอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม ร่างกายเสื่อมโทรม

สำหรับบางท่านที่ไม่สามารถชมการแข่งขันได้ทุกคู่ก็ควรเลือกชมเฉพาะคู่พิเศษที่สนใจ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการพักผ่อนไม่เพียงพอได้ และระหว่างการแข่งขันควรมีการนอนพักให้ได้ 6-8 ชั่วโมง แต่กรณีที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ควรหาเวลาในช่วงพักเที่ยงหรือช่วงหัวค่ำก่อนการแข่งขันด้วยการงีบหลับ เพราะการนอนหลับไม่เพียงพออาจทำให้เกิดการอ่อนเพลีย ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยได้ง่าย อีกทั้งยังมีผลต่อฮอร์โมนในร่างกายที่ควบคุมความอยากอาหาร ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดความหิวจนสามารถนำไปสู่โรคอ้วนได้

“การชมฟุตบอลผ่านจอโทรทัศน์ควรให้อยู่ในระดับสายตา ไม่ควรนั่งชมในที่มืด ต้องเปิดไฟลดความจ้าของแสงโทรทัศน์เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับตาได้ และหากชมการแข่งขันเป็นเวลานาน ๆ ผู้ชมควรนั่งอย่างถูกวิธีหากนั่งบนเก้าอี้ควรห้อยขาลง หากนั่งพื้น ไม่ควรนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ หรืองอเข่านานๆ และหากรู้สึกเมื่อยก็ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ด้วยการลุกขึ้น หรือทำการยืดเหยียดแขน ขา ลำตัว คอ บ่า ไหล่ อย่างง่ายๆ ระหว่างนั่งชมหรือช่วงพักการแข่งขัน เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน จะทำให้รู้สึกสบายขึ้น ที่สำคัญควรชมการแข่งขันฟุตบอลเพื่อความสนุกและการส่งเสริมกีฬาเท่านั้น ควรหลีกเลี่ยงการเล่นพนันบอล เพราะจะก่อให้เกิดความเครียดและมีปัญหาสุขภาพจิตตามมา” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ด้านแพทย์หญิงนภาพรรณ วิริยะอุตสาหกุล ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงฟุตบอลโลกผู้ผลิตสินค้าอาหารและเครื่องดื่มยี่ห้อต่างๆ มีการโฆษณา และจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย ทำให้ประชาชนเกิดกระแสบริโภคนิยม ซึ่งอาหารที่ได้รับความนิยมส่วนมากเป็นอาหารจำพวกขนมขบเคี้ยวที่มีไขมันและโซเดียมสูง เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

ซึ่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานมากแต่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายน้อยและไม่ดีต่อสุขภาพ อาทิ ป๊อบคอร์น มันฝรั่งทอดกรอบ ข้าวเกรียบทอด ไก่ทอด ไส้กรอก น้ำอัดลม ชาเขียว เครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ เป็นต้น ซึ่งการดื่มชาเขียวรสน้ำผึ้ง 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 250 กิโลแคลอรี มีน้ำตาลประมาณ 14 ช้อนชา คู่กับมันฝรั่งทอดกรอบ 1 ถุงใหญ่ ขนาด 57 กรัม ให้พลังงาน 320 กิโลแคลอรี ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานทั้งหมดถึง 570 กิโลแคลอรี และการดื่มน้ำอัดลม 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 200 กิโลแคลอรี คู่กับไส้กรอก 1 ถุง ขนาด 150 กรัม ให้พลังงาน 500 กิโลแคลอรี ร่างกายจะได้รับพลังงานทั้งหมดถึง 700 กิโลแคลอรี

นอกจากนี้ ที่สำคัญควรควบคุมการดื่มหรือเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ 1 กรัม ให้พลังงาน 7 กิโลแคลอรี่ หากดื่มเบียร์ 1 กระป๋อง ขนาด 350 มิลลิลิตร จะได้รับพลังงาน 137 กิโลแคลอรี่ และดื่มไวน์ 1 แก้ว ขนาด 100 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 75 แคลลอรี่ ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกายจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนและโรคอื่นๆตามมา ที่สำคัญควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ที่มา วอยซ์ทีวี
ภาพ แฟ้มภาพ

แก้ไขล่าสุด : 18 มิ.ย. 2561, เวลา 23:50



ข่าวอื่นๆ

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย

ร่วมสร้างสังคมปลอดบุหรี่